ในกรณีของมหาวิทยาลัยรีดดิ้งที่บุกเข้ามาในมาเลเซีย ไม่มีทางรับประกันว่าถนนจะปูด้วยทองคำ

ในกรณีของมหาวิทยาลัยรีดดิ้งที่บุกเข้ามาในมาเลเซีย ไม่มีทางรับประกันว่าถนนจะปูด้วยทองคำ

อาจดูเหมือนเป็นอุดมคติ แต่ความเป็นสากลควรพยายามนำเสนอวาระการประชุมที่ยกระดับซึ่งปลดปล่อยโลกจากอดีตที่เห็นแก่ตัวและแสวงประโยชน์ ในขณะเดียวกันก็สร้างความร่วมมือและอนาคตที่เป็นธรรมทางสังคม สิ่งนี้จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อจุดหมายปลายทางชั้นนำที่พูดภาษาอังกฤษยุติความหมกมุ่นกับงานหลังเลิกเรียน และเริ่มสนับสนุนผู้สำเร็จการศึกษาระดับนานาชาติที่ ‘เก่งที่สุดและดีที่สุด’ ในการเปลี่ยนไปใช้แรงงานที่บ้าน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสหราชอาณาจักร อาจเป็นช่วงเวลาสำหรับการพิจารณาการดำเนินการที่รุนแรง

ซึ่งสร้างความแตกต่างของแนวทางของตนและสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและเปลี่ยนแปลงกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกการกำหนดกรอบปัญหาการอพยพของผู้มีความสามารถจากโลกใต้ไปยังโลกเหนือนั้นเป็นที่รู้จักและเข้าใจเป็นอย่างดีจากงานวิจัยของ IMFระบุว่ามี “…แนวโน้ม

โดยรวมสำหรับอัตราการย้ายถิ่นจะสูงขึ้นสำหรับบุคคลที่มีการศึกษาสูง”ประเทศเล็กๆ ในแอฟริกา แคริบเบียน และอเมริกากลาง “สูญเสียมากกว่า 30% ของกลุ่มนี้ไปกับการย้ายถิ่นฐาน” และยังมี “สมองไหลจำนวนมากจากอิหร่าน เกาหลี ฟิลิปปินส์ และไต้หวันของจีน”ปัญหาที่น่าหนักใจเป็นพิเศษคือผลกระทบต่อภาคส่วนการดูแลสุขภาพในประเทศกำลังพัฒนา โดยมีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีทักษะสูงจำนวนมากย้ายจากแอฟริกาไปยังประเทศที่พัฒนาแล้วรวมถึงแพทย์ที่อพยพจากแอฟริกาตอนใต้ไปยังออสเตรเลีย และพยาบาลและผดุงครรภ์จากไนจีเรียไปยังสหราชอาณาจักร

รัฐบาลของประเทศที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจใหม่ได้ดำเนินการเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว

 และโครงการทุนการศึกษาที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐที่ร่ำรวยน้ำมันหรือแร่ธาตุ เช่น ซาอุดีอาระเบียและมาเลเซีย เรียกร้องให้นักเรียนกลับบ้านเพื่อมอบผลตอบแทนจากการลงทุนของผู้ให้ทุนมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลียยินดีที่จะมีส่วนร่วมในข้อตกลงดังกล่าวและใช้เวลาโน้มน้าวใจเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ส่งนักเรียนในความอุปการะ 

ความจริงก็คือมหาวิทยาลัยไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างแท้จริงในการที่นักศึกษาจะทำงานหลังเลิกเรียน

ในแง่นั้นเสียงโห่ร้องเพื่อขอสิทธิในการทำงานหลังการศึกษาที่เพิ่มขึ้นนั้นได้รับการสนับสนุนจากการเพิ่มผลตอบแทนทางการเงินสูงสุดจากนักเรียนทุนส่วนตัวจำนวนมาก

รัฐบาลได้รับการโน้มน้าวใจให้นักศึกษาต่างชาติลดความจำเป็นในการให้เงินทุนแก่ภาคส่วนนี้จากกระเป๋าเงินสาธารณะ ขณะเดียวกันก็เพิ่มความเป็นไปได้ในการหางานให้กับคนงานที่หางานยาก แม้ว่าไม่จำเป็นต้องจบระดับบัณฑิตศึกษาก็ตาม

Credit : สล็ตอเว็บตรง ไม่มีขั้นต่ำ